• Skip to primary navigation
  • Skip to main content
  • Skip to primary sidebar

ThaiHiv365

Never leave someone behind.

  • หน้าแรก
  • จองคิวตรวจเอชไอวี
  • เอชไอวีและเอดส์
    • การรักษาเอชไอวี
    • การป้องกันเอชไอวี
    • การตรวจเอชไอวี
    • เอดส์ คืออะไร
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    • โรคหนองในเทียม
    • โรคหนองใน ภัยร้ายใกล้ตัว รู้ก่อนรักษาได้
    • โรคหูดข้าวสุก
    • โรคหูดหงอนไก่
    • โรคเริม
    • แผลริมอ่อน
    • โรคซิฟิลิส
  • เพร็พ PrEP/ เป็ป PEP
    • เพร็พ PrEP
    • เป๊ป PEP
  • บทความ
  • ถาม-ตอบ
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา

สาเหตุ STI

สาเหตุ อาการ และการรักษา โรคซิฟิลิส

July 13, 2023 by thaihiv365 team

โรคซิฟิลิส สาเหตุ อาการ และการรักษา

ซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ซึ่งเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญมานานหลายศตวรรษ ซิฟิลิสเกิดจากแบคทีเรีย Treponema pallidum สามารถส่งผลกระทบต่อส่วนต่างๆ ของร่างกายและลุกลามไปตามระยะต่างๆ หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงสาเหตุ อาการ และการรักษาที่มีอยู่สำหรับโรคซิฟิลิส

ทำความเข้าใจโรคซิฟิลิส

ซิฟิลิส เป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยส่วนใหญ่ติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ โดยไม่ได้ป้องกัน นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อผ่านทางเลือด และจากมารดาที่ติดเชื้อไปยังทารกในครรภ์ หรือคลอดบุตรได้เช่นกัน ซิฟิลิสแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ

ซิฟิลิสระยะแรก

ในระยะแรก ผู้ติดเชื้อจะเกิดแผลริมแข็งเล็ก ๆ อาการนี้อาจปรากฏที่อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก ผู้ป่วยอาจไม่ทันได้สังเกตหรือไม่รู้ตัว เนื่องแผลที่เกิดขึ้นไม่มีอาการเจ็บปวด และมักเป็นนาน 3 ถึง 6 สัปดาห์

ซิฟิลิสระยะสอง

หากไม่ได้รับการรักษา ซิฟิลิสระยะแรกจะดำเนินไปสู่ระยะที่สอง ระยะนี้มีลักษณะอาการหลายอย่าง ได้แก่ ผื่นที่ผิวหนัง มีไข้ อ่อนเพลีย เจ็บคอ และต่อมน้ำเหลืองบวม อาการเหล่านี้อาจเป็นๆ หายๆ หลายเดือน จึงจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

ซิฟิลิสระยะแฝง

หลังจากระยะที่สอง ซิฟิลิสจะเข้าสู่ระยะแฝง ในช่วงเวลานี้ไม่มีอาการที่มองเห็นได้ แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย ซิฟิลิสแฝงสามารถคงอยู่ได้นานหลายปี และหากไม่ได้รับการรักษา การติดเชื้ออาจลุกลามไปถึงระยะที่สามได้

ซิฟิลิสระยะสาม

ซิฟิลิสระยะที่สาม เป็นระยะที่รุนแรงที่สุดและอาจสร้างความเสียหายต่อระบบอวัยวะต่างๆ ซึ่งระยะนี้อาจเกิดขึ้นได้หลายปีหลังจากการติดเชื้อครั้งแรก อาการต่างๆ อาจรวมถึงความผิดปกติทางระบบประสาท ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ตาบอด และอวัยวะภายในเสียหาย ซิฟิลิสระยะที่สาม อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษา

สาเหตุและการแพร่เชื้อ

สาเหตุและการแพร่เชื้อ

ซิฟิลิส ส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก และทางปาก นอกจากนี้ยังสามามารถติดต่อผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรงกับผู้ป่วย ทั้งนี้หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อซิฟิลิสสามารถแพร่เชื้อไปยังเด็กในครรภ์ได้ ซึ่งนำไปสู่โรคซิฟิลิสแต่กำเนิด

อาการของโรคซิฟิลิส

อาการของซิฟิลิส อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะของการติดเชื้อ โดยอาการที่พบได้บ่อย คือ

  • แผลริมริมแข็ง บริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือปาก (ระยะแรก)
  • ผื่นที่ผิวหนัง มักขึ้นที่ฝ่ามือหรือฝ่าเท้า (ระยะที่สอง)
  • มีไข้ อ่อนเพลีย เจ็บคอ และต่อมน้ำเหลืองโต (ระยะที่สอง)
  • ผมร่วง ปวดกล้ามเนื้อ น้ำหนักลด (ระยะที่สอง)
  • ไม่แสดงอาการให้เห็น (ระยะแฝง)
  • ความผิดปกติทางระบบประสาท โรคหัวใจ ตาบอด และอวัยวะภายในเสียหาย (ระยะที่สาม)

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อโรคซิฟิลิส

  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
  • ผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนเป็นประจำ
  • ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยซิฟิลิส

การวินิจฉัยโรคซิฟิลิส

การวินิจฉัยโรคซิฟิลิส สามารถทำโดยนำน้ำเหลืองจากแผล หรือผื่นที่ปรากฏบนตัวผู้ป่วยไปส่องกล้อง เพื่อหาตัวเชื้อโรค หรืออาจจะเจาะเลือดเพื่อตรวจหาภูมิต่อเชื้อซิฟิลิส

โรคซิฟิลิสรักษาอย่างไร ?

โรคซิฟิลิส สามารถรักษาให้หายได้ หากตรวจพบเจอตั้งแต่เนิ่นๆ โดยการใช้ยาปฏิชีวนะ กลุ่มเพนนิซิลลิน ทั้งนี้ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่เป็นด้วย หลังจากรักษาไปแล้ว 6 เดือน ต้องตรวจซ้ำในทุกๆ ปี เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

การป้องกันและการปฏิบัติที่ปลอดภัย

การป้องกัน และการปฏิบัติที่ปลอดภัย
  • ใช้ ถุงยางอนามัย ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
  • งดการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีแผลบริเวณอวัยวะเพศ
  • ตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำทุกๆปี

ซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักจะไม่แสดงอาการให้เห็นได้ชัดเจน ทำให้ไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ หากไม่ได้รับการรักษา โรคก็จะลุกลามไปทำลายอวัยวะอื่นๆ ดังนั้นไม่ควรละเลยต่อการตรวจคัดกรองซิฟิลิส เพราะตรวจพบเร็วในระยะแรกๆ สามารถรักษาให้หายได้

Filed Under: โรคซิฟิลิส Tagged With: Treponema pallidum, การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์, การรักษาซิฟิลิส, ซิฟิลิส, สาเหตุ STI, อาการ STI

Primary Sidebar

Recent Posts

  • สาเหตุ อาการ และการรักษา โรคซิฟิลิส
  • การตรวจ HIV ในปัจจุบัน | HIV Test
  • PEP ป้องกัน HIV ในกรณีฉุกเฉิน
  • สารพัดประโยชน์ของถุงยางอนามัย
  • เอชไอวีป้องกันได้ ด้วยการทาน “PrEP”

Archives

  • July 2023
  • June 2023
  • May 2023
  • April 2023
  • March 2023
  • February 2023
  • January 2023
  • December 2022
  • November 2022
  • October 2022
  • September 2022
  • August 2022
  • July 2022
  • June 2022
  • May 2022
  • April 2022
  • March 2022
  • February 2022
  • January 2022
  • November 2021
  • September 2021
  • April 2021
  • November 2020
  • September 2020
  • May 2020
  • April 2020

Categories

  • PEP
  • PrEP
  • Uncategorized
  • ตรวจเอชไอวี
  • ถุงยางอนามัย
  • ยาต้านไวรัส
  • หนองใน
  • หนองในเทียม
  • หนองในแท้
  • เอชไอวี HIV
  • เอดส์
  • แผลริมอ่อน
  • โรคซิฟิลิส
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • โรคฝีดาษลิง
  • โรคฝีมะม่วง
  • ไวรัสตับอักเสบบี

Copyright © 2023 · Genesis Sample on Genesis Framework · WordPress · Log in