การตรวจนับ ค่า CD4 (ซีดีโฟร์) ซึ่งเป็นคำที่ใช้ในการวินิจฉัย การรักษา และติดตาม การติดเชื้อเอชไอวี การรักษาภาวะโรคเอดส์ เป็นต้น ค่า CD4 หมายถึง จำนวนเซลล์ CD4 หรือเซลล์ T-helper ในเลือด เซลล์ CD4 เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือโรคอื่นๆ ได้ดี โดยเฉพาะไวรัสเอชไอวีนี้จะมุ่งเข้าโจมตีและทำลายเซลล์ CD4 เป็นหลัก ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และทำให้ร่างกายอ่อนแอต่อการติดเชื้อและการเจ็บป่วยค่า CD4 เป็นตัววัดที่สำคัญของสุขภาพและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ใช้เพื่อระบุระยะของโรค ความจำเป็นในการรักษา และประสิทธิผลของยารักษาเอชไอวี บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายว่าจำนวน CD4 คืออะไร วิธีการใช้ในการจัดการเอชไอวีและโรคเอดส์ และความสำคัญในการวินิจฉัย การรักษา และการติดตามโรค
จำนวน ค่า CD4 สัมพันธ์กับ HIV อย่างไร?
- จำนวน CD4 และระบบภูมิคุ้มกันเซลล์
- CD4 มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พวกมันช่วยกระตุ้นและประสานเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่นๆ เช่น บีเซลล์ และเซลล์ทีเป็นพิษต่อเซลล์ในการต่อสู้กับการติดเชื้อ เมื่อค่า CD4 ต่ำ ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง และร่างกายจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและโรคต่างๆ มากขึ้น
- จำนวน CD4 และการลุกลามของเชื้อ HIV
- เชื้อ HIV โจมตีและทำลายเซลล์ CD4 ทำให้จำนวนเซลล์ T-helper ในร่างกายลดลง เมื่อจำนวน CD4 ลดลง ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และความเจ็บป่วยก็เพิ่มขึ้น เอชไอวีดำเนินไปตามระยะต่างๆ และจำนวน CD4 จะใช้ในการกำหนดระยะของโรค
ระยะของโรคเอชไอวีขึ้นอยู่กับจำนวน CD4 ดังนี้
- ระยะที่ 1: CD4 มีค่ามากกว่า 500 เซลล์/ลบ.มม.
- ระยะที่ 2: มีค่า CD4 ระหว่าง 200 ถึง 499 เซลล์/ลบ.มม.
- ระยะที่ 3: มีค่า CD4 ต่ำกว่า 200 เซลล์/ลบ.มม.
จำนวน CD4 และการแพร่เชื้อเอชไอวี การนับ CD4 ยังมีบทบาทในการแพร่เชื้อเอชไอวี ผู้ที่ติดเชื้อที่มีปริมาณ CD4 ต่ำมีแนวโน้มที่จะแพร่เชื้อไวรัสไปยังผู้อื่น นี่เป็นเพราะระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ทำให้พวกมันไวต่อการติดเชื้อ รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ซึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อเอชไอวี
การนับ CD4 และการรักษาเอชไอวีการนับ CD4 ใช้เพื่อกำหนดความจำเป็นในการรักษาเอชไอวี และติดตามประสิทธิภาพของยารักษาเอชไอวี การรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) เป็นการรักษามาตรฐานสำหรับเอชไอวี และได้ผลโดยการยับยั้งไวรัสและฟื้นฟูการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จำนวน CD4 ใช้เพื่อระบุว่าเมื่อใดควรเริ่ม ART การรักษาทำงานได้ดีเพียงใด และเมื่อใดที่ควรเปลี่ยนแปลงสูตรยา
วิธีการตรวจ ค่า CD4
การตรวจค่า CD4 จะวัดจำนวนเซลล์ T-helper ในเลือด มีหลายวิธีในการทดสอบ CD4 รวมถึงโฟลว์ไซโตเมทรี การทดสอบ ณ จุดดูแล และการทดสอบในห้องปฏิบัติการ Flow cytometry เป็นวิธีการทดสอบ CD4 ที่ใช้บ่อยที่สุด ใช้ตัวอย่างเลือดเพื่อวัดจำนวนเซลล์ CD4 และคำนวณจำนวน CD4 การทดสอบ ณ จุดดูแลคือการทดสอบ CD4 ที่รวดเร็วซึ่งให้ผลในเวลาน้อยกว่า 30 นาที โดยทั่วไปจะใช้ในการตั้งค่าที่มีทรัพยากรจำกัด ซึ่งการเข้าถึงการทดสอบในห้องปฏิบัติการมีจำกัด ความถี่ในการตรวจ CD4 แนะนำให้ตรวจ CD4 ในการวินิจฉัยโรค และทุก 3-6 เดือนสำหรับผู้ที่ติดเชื้อ HIV/AIDS ซึ่งไม่ได้อยู่ใน ART สำหรับผู้ที่ใช้ยา ART แนะนำให้ตรวจ CD4 ในการวินิจฉัย เมื่อเริ่มใช้ยา ART และทุก ๆ หกถึง 12 เดือนหลังจากนั้น
การตีความผลการตรวจ CD4
จำนวน CD4 ถูกรายงานเป็นจำนวนเซลล์ CD4 ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร (มม. 3) ของเลือด ค่า CD4 ปกติในผู้ใหญ่มีค่าตั้งแต่ 500 ถึง 1,500 เซลล์/ลบ.มม. อย่างไรก็ตาม จำนวน CD4 อาจแตกต่างกันไปตามอายุ เพศ และปัจจัยอื่นๆ ค่า CD4 ที่ต่ำบ่งชี้ว่าระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และค่า CD4 ที่สูงกว่าบ่งชี้ว่าระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น จำนวน CD4 ใช้ในการกำหนดระยะของโรคเอชไอวีและความจำเป็นในการรักษาด้วยยาต้านไวรัส
ข้อจำกัดของการตรวจ CD4
การทดสอบ CD4 มีข้อจำกัดบางประการ จำนวน CD4 สามารถผันผวนได้เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การติดเชื้อ การฉีดวัคซีน และความเครียด จำนวน CD4 อาจไม่สะท้อนถึงการทำงานโดยรวมของระบบภูมิคุ้มกัน และบางคนที่มีจำนวน CD4 ต่ำอาจมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่รุนแรง
ปริมาณ CD4 และการรักษาเอชไอวี
การรักษาด้วยยาต้านไวรัสการรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) เป็นการรักษามาตรฐานสำหรับเอชไอวี/เอดส์ ART ทำงานโดยการยับยั้งไวรัสและฟื้นฟูการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ยา ART มักประกอบด้วยยาต้านไวรัสตั้งแต่สามชนิดขึ้นไปจากประเภทต่างๆ กัน
- จำนวน CD4 และการเริ่มต้น ART จำนวน CD4 ใช้เพื่อกำหนดเวลาที่จะเริ่ม ART โดยทั่วไป แนะนำให้ใช้ ART สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ HIV/AIDS โดยมีค่า CD4 ต่ำกว่า 350 เซลล์/ลบ.มม. อย่างไรก็ตาม อาจแนะนำให้ใช้ยา ART สำหรับผู้ที่มีปริมาณ CD4 สูงกว่า 350 เซลล์/ลบ.มม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพโดยรวม และปัจจัยอื่นๆ ของบุคคลนั้นๆ
- ปริมาณ CD4 และการเกาะติดของยา ARTยา ART ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการใช้ยาอย่างเคร่งครัดจึงจะได้ผล จำนวน CD4 ใช้เพื่อตรวจสอบความสม่ำเสมอและประสิทธิผลของ ART ปริมาณ CD4 ที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอเป็นสัญญาณว่าการรักษาได้ผล
- จำนวน CD4 และการตอบสนองของ ART การนับ CD4 ยังใช้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของ ART เมื่อเวลาผ่านไป ยา ART สามารถลดปริมาณไวรัสและเพิ่มจำนวน CD4 การเพิ่มขึ้นของจำนวน CD4 บ่งชี้ถึงระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น และความเสี่ยงในการติดเชื้อและการเจ็บป่วยที่ลดลง
การนับ CD4 เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการเอชไอวีและโรคเอดส์ ใช้เพื่อระบุระยะของโรคเอชไอวี ความจำเป็นในการรักษา และประสิทธิภาพของยารักษาเอชไอวี แนะนำให้ตรวจ CD4 ในการวินิจฉัยและหลังจากนั้นเป็นประจำสำหรับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ART คือ การรักษามาตรฐานสำหรับเอชไอวีและโรคเอดส์ และจำนวน CD4 จะใช้เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามและการตอบสนองของยาต้าน ART
อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
CD4 ที่เท่าไหร่ถึงเรียกว่าระดับน่าเป็นห่วง
แยกให้เป็น HIV กับ AIDS ไม่เหมือนกัน
อนาคตของการตรวจ CD4 และการรักษา HIV/AIDS นั้นสดใส ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการทดสอบ CD4 อาจนำไปสู่วิธีการทดสอบ CD4 ที่แม่นยำและเข้าถึงได้มากขึ้น ยาและสูตรการรักษาเอชไอวีแบบใหม่อาจให้ทางเลือกมากขึ้นสำหรับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ด้วยการวิจัยและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง