
เอชไอวี (HIV) เป็นไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และสามารถนำไปสู่ภาวะเอดส์ (AIDS) หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม แม้ว่าจะยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่ปัจจุบันมีแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพ หนึ่งในนั้นคือ ยาเพร็พ ซึ่งเป็นยาที่ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีได้อย่างมาก ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาเพร็พผ่าน 7 เรื่องสำคัญที่คุณควรรู้ ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าการใช้ยาเพร็พเหมาะกับคุณหรือไม่ และควรใช้อย่างไรให้ได้ผลสูงสุด
1. ยาเพร็พ คืออะไร และทำงานอย่างไร?
ยาเพร็พ เป็นยาต้านไวรัสที่ประกอบด้วย Tenofovir และ Emtricitabine ซึ่งเป็นยาที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โดยทำงานผ่านการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อหากมีการสัมผัสกับไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ยานี้จะสร้าง “เกราะป้องกัน” ที่ทำให้เชื้อเอชไอวีไม่สามารถแพร่กระจายในร่างกายได้

2. ยาเพร็พ มีประสิทธิภาพแค่ไหน?
หากรับประทานยาเพร็พ อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ สามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีได้มากกว่า 99% ในกรณีของการมีเพศสัมพันธ์ และประมาณ 74% ในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ยาเพร็พไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส หนองใน หรือเริม
3. ใครบ้างที่ควรใช้ยาเพร็พ?
ยาเพร็พเหมาะสำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ได้แก่
- ผู้ที่มีคู่นอนติดเชื้อเอชไอวี
- ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
- ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM)
- ผู้ที่มีประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง
- ผู้ใช้สารเสพติดที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่าคุณเหมาะกับการใช้ยาเพร็พหรือไม่
4. วิธีการใช้ยาเพร็พ: รายวัน vs รายตามความต้องการ
มี 2 วิธีหลักในการใช้ยาเพร็พ
- แบบรายวัน (Daily PrEP) – การกินยา 1 เม็ดทุกวัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อเนื่อง
- แบบตามความต้องการ (On-Demand PrEP หรือ 2-1-1) – ใช้เฉพาะก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยมีกำหนดเวลากินดังนี้
- 2 เม็ด ก่อนมีเพศสัมพันธ์ 2 – 24 ชั่วโมง
- 1 เม็ด หลังจากทานยาครั้งแรก 24 ชั่วโมง
- 1 เม็ด หลังจากนั้นอีก 24 ชั่วโมง
5. ยาเพร็พปลอดภัยหรือไม่? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
โดยทั่วไป ยาเพร็พปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย อาการข้างเคียงที่อาจพบ ได้แก่
- คลื่นไส้ เวียนศีรษะ หรือท้องเสีย (มักเกิดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก)
- อาจมีผลกระทบต่อไตและกระดูก (พบได้น้อยมาก)
- ในบางกรณีอาจเกิดอาการแพ้ยา (แต่พบได้น้อย)
หากคุณกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง ควรปรึกษาแพทย์และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นระยะ
6. ต้องตรวจอะไรบ้างก่อนเริ่มใช้ยาเพร็พ?
ก่อนเริ่มใช้ยาเพร็พ คุณต้องตรวจสุขภาพเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย โดยการตรวจหลักๆ ได้แก่
- การตรวจเอชไอวี – เพื่อยืนยันว่าคุณยังไม่ติดเชื้อ เพราะหากติดเชื้อแล้วและใช้ยาเพร็พเพียงอย่างเดียว อาจทำให้เชื้อดื้อยา
- การตรวจการทำงานของไต – เพื่อดูว่าร่างกายสามารถขับยาออกจากระบบได้ดีหรือไม่
- การตรวจไวรัสตับอักเสบบี – เพราะยาเพร็พมีผลต่อผู้ที่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี
เมื่อเริ่มใช้ยาเพร็พแล้ว ควรตรวจเอชไอวีและสุขภาพไตทุก 3 เดือน
7. ยาเพร็พหาได้ที่ไหน และราคาเท่าไร?

ปัจจุบันยาเพร็พสามารถหาซื้อได้ที่
- โรงพยาบาลของรัฐและเอกชน
- คลินิกที่ให้บริการด้านเอชไอวี
- องค์กรที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางเพศ
ค่าใช้จ่าย:
- ในบางประเทศรวมถึงไทย ยาเพร็พได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้มีบริการฟรีหรือราคาถูก
- ราคาแบบซื้อเองอาจอยู่ที่ประมาณ 800 – 2,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและยี่ห้อของยา)
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม
ยาเพร็พ เป็นวิธีป้องกันเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องและสม่ำเสมอ ยาเพร็พไม่ใช่ยารักษา และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้ การใช้ยาเพร็พควบคู่กับถุงยางอนามัยและการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้คุณมีสุขภาพทางเพศที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
อ้างอิง
- กรมควบคุมโรค, กระทรวงสาธารณสุข. (2566). คู่มือการใช้ยาเพร็พ (PrEP) สำหรับการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี. สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th/
- สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.). (2565). สิทธิการเข้าถึงยาเพร็พฟรีสำหรับประชาชนไทย. สืบค้นจาก https://www.nhso.go.th/