ยาเป๊ป (PEP) ยาต้านฉุกเฉิน ย่อมาจากคำว่า Post-Exposure Prophylaxis เป็นยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพ ใช้สำหรับผู้ที่ไม่มีเชื้อเอชไอวีในร่างกาย โดยแพทย์จะจ่ายยาต้านฉุกเฉิน PEP ให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อเอชไอวีหรือเพิ่งสัมผัสเชื้อเอชไอวี โดยจะต้องทาน PEP ภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีความเสี่ยง ต้องทานยาอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง 28 วัน เพื่อประสิทธิภาพในการช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสเอชไอวีที่สมบูรณ์
ใครบ้างที่ควรได้รับยาเป๊ป (PEP)
- มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่อาจมีเชื้อเอชไอวีและไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย
- ถุงยางอนามัยหลุดหรือฉีกขาด (ถุงแตก)
- ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
- ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
- ผู้ที่มีความเสี่ยงจากการทำงาน เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ
ทานยาเป๊ป (PEP) ต้องเตรียมอะไรบ้าง
ก่อนเริ่มรับประทานยาเป๊ป (PEP) ต้องซักประวัติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพิจารณาว่าจำเป็นต้องรับยาเป๊ป (PEP) หรือไม่ โดยแพทย์จะสั่ง ตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี ตรวจไวรัสตับอักเสบบี การทำงานของตับและไตก่อนรับยา (หากติดเชื้อเอชไอวีอยู่ก่อนแล้วจะไม่สามารถใช้ยาเป๊ปได้) หลังรับประทานยาครบ 28 วัน ตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีซ้ำ 1 เดือนและ 3 เดือน ในช่วงนี้ควรงดบริจาคเลือด และใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
ยาเป๊ป (PEP) ราคาเท่าไหร่
เป๊ป (PEP) เป็นยาที่มีราคาแพง ราคาเริ่มต้นที่ 1200- 20000 บาท แล้วแต่ชนิของยา และดุลพินิจของแพทย์ และมีหลายองค์กรใช้บริการฟรี ตามกลุ่มเสี่ยงและโครงการ
ยาเป๊ป (PEP) มีผลข้างเคียงไหม
ส่วนใหญ่ผู้ที่กินยาเป๊ป (PEP) มักจะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายรุนแรง เนื่องจากยามีความปลอดภัยต่อร่างกายและเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ซึ่งในกรณีของผู้ที่มีภาวะข้างเคียงจะมีอาการดีขึ้นหลังกินยาผ่านประมาณ 1 สัปดาห์ โดยจะแสดงอาการที่เห็นได้ชัด เช่น
- คลื่นไส้
- วิงเวียนศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- ท้องเสีย
ข้อแตกต่างระหว่าง PEP และ PrEP
PEP (Post-Exposure Prophylaxis)
- ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี “หลัง” จากที่มีความเสี่ยงมาแล้ว
- กินในกรณีฉุกเฉิน เช่น มีเพศสัมพันธ์แล้วถุงยางอนามัยแตก
- กินให้เร็วที่สุด หรือภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมง
- ประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีอยู่ที่ประมาณร้อยละ 70-80
- กินให้ครบ 28 วัน หากกินไม่ครบประสิทธิภาพการป้องกันจะลดลง
- มีสูตรยาหลายสูตรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis)
- ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี “ก่อน” ที่จะมีความเสี่ยง
- กินในกรณีที่รู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยง เช่น ไม่ใส่ถุงยางอนามัย มีคู่นอนหลายคน
- กินทุกวัน วันละ 1 เม็ด หรือเลือกทานแบบ PrEP- On Demand 2-1-1
- ประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีอยู่ที่ประมาณร้อยละ 90 หากกินยาอย่างสม่ำเสมอ
- แพทย์จะนัดทุก 3 เดือน เพื่อตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี และเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา
- ถ้าไม่มีความเสี่ยงแล้ว สามารถหยุดได้หลังมีความเสี่ยงครั้งสุดท้าย 4 สัปดาห์
ขอบคุณข้อมูล : bumrungrad, Lovefoundation